Mi Band 3 เปิดตัว

เปิดตัวแล้วสำหรับ Mi Band รุ่นที่ 5 (ห้า) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Mi Band 3 จุดเด่นสำหรับรุ่นนี้ มีจอ OLED โค้งขนาด 0.78 นิ้ว พร้อมแสดงผลในขอบเขตที่มากกว่าเดิม สามารถแสดงข้อความจากแอปพลิเคชันหรือทัชสกรีนบนจอได้เลย (ไม่มีปุ่ม) มีชิป NFC (ใช้ชำระเงินรถโดยสารประจำทาง เช่น BTS, MRT และร้านค้าทีรองรับการชำระเงินด้วย NFC)

มาพร้อมระบบ Gesture Control (สั่งงานด้วยการเคลื่อนไหว) อีกทั้งยังสามารถวัดชีพจรได้แบบ Real time โดยไม่ต้องพึ่งแอป พร้อมการแจ้งเตือนอัตราการเต้นที่ผิดปกติได้ทันที สามารถแสดงสภาพอากาศได้ จุดเด่นสำหรับรุ่นนี้คือสามารถใส่ว่ายน้ำได้ลึก 50 เมตร แบตเตอรี่อยู่ได้ 20วัน (ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล)

ในส่วนของความสามารถอื่นๆ ก็ไม่ต่างกับ Mi Band 2 ที่ยังสามารถแสดงเวลา จำนวนก้าว อัตราการเต้นของหัวใจ และการแจ้งเตือนต่างๆ รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.2 เปลี่ยนฟังก์ชั่นด้วยการทัชสกรีน ฟังก์ชั่น Sleep assistant ที่ตัวเซ็นเซอร์จะมีการวัดเป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน คอยตรวจสอบว่ามีการสวมใส่สายรัดอยู่หรือไม่ เพื่อแยกระหว่างการสวมใส่ขณะนอนหลับ หรือตั้งสายรัดทิ้งไว้เฉยๆ และยังเพิ่มความแม่นยำให้อีกด้วย

ปรับปรุ่งอัลกอริทึมใหม่ เพื่อลดปัญหาการตรวจจับก้าวเดินที่ผิดพลาด ฟังก์ชั่นการตรวจจับการใส่นั่งนานๆ เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งจะมีการแจ้งเตือนให้เราลุกขึ้นขยับร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดี

ในส่วนของข้อมูลต่างๆ จะยังคงถูกเก็บไว้ในแอป Mi Fit เชื่อมต่อเข้ากับ Server สามารถเข้ามาดูประวัติข้อมูลทั้งหมดได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะเปลี่ยนหรือทำ Mi Band หายไปแล้วก็ตาม

ฟังก์ชั่นการสั่นเตือนให้เราไม่พลาดการติดต่อ โดยที่เราสามารถตั้งระยะเวลาให้เริ่มสั่นหลักจากมีสายเรียกเข้าได้ตั้งแต่ 3วิ ถึง 30 วิ หรือจะเพิ่มการตั้งปลุก สำหรับใครหลักลึกไม่สามารถตื่นขึ้นมาจากเสียงนาฬิกาปลุกได้ การใช้ระบบสั่นที่ข้อมือก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งให้ทดลองใช้งานได้ ฟังก์ชั่นการปลดล็อคหน้าจอด้วย Mi Band โดนหลักการทำงานก็คือ เจ้าตัว Mi Band จะเป็นเสมือนตัวกุญแจ ที่จะไขโทรศัพท์ (Smart look) ของเราเมื่ออยู่ในระยะใกล้กัน ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาใส่รหัสปลดล็อคทุกครั้งที่จะใช้งาน ใครที่ชอบตั้งรหัสยาวๆ คงจะดีใจไม่น้อย

ในส่วนของราคาได้มีการเปิดจำหน่ายในจีนด้วยราคา 169 หยวน หรือ 845บาท สำหรับตัวธรรมดา และ 199 หยวน หรือ 995 บาท สำหรับตัวมีชิป NFC ส่วนราคาหลังเข้าไทยจะโดนบวกภาษีไปเท่าไรต้องรอลุ้นครับ (ไม่นับรวมเครื่องหิ้ว)